วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2552

สุขภาพดีด้วย 8 วิธีป้องกัน

การมีสุขภาพดีถือเป็นสุดยอดปรารถนาของทุกคนใช่ไหมคะ วันนี้เรามี 8 วิธีป้องกันสุขภาพแบบง่ายๆ มาฝากกันค่ะ

1. งดจ็อกกิ้งถ้าเป็นไข้หวัดใหญ่

เพราะการวิ่งมากเกินไปอาจจะทำให้กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ถ้าสาวแซบมีเชื้อไวรัสหวัดอยู่ เจ้าไวรัสก็อาจเข้าสู่หัวใจได้ ทีนี้จากโรคง่ายๆ ก็จะลามไปเป็นฌรคที่รักษายากเลยล่ะ

2. อย่าใส่ถุงน่องไนล่อนทุกวัน

เพราะผ้าไนล่อนระบายความชื้นได้น้อย จึงง่ายที่เชื้อราจะเติบโต จากนั้นก็จะแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายคุณทางช่องคลอด ถ้าคุณติดถึงน่องชนิดวันไหนไม่ได้ใส่จะรู้สึกว่าโป๊ ควรจะเลือกใส่ชนิดที่มีผ้าฝ้ายผสมจะดีกว่า

3. ใส่แว่นเสียบ้าง

สาวๆ ที่ใส่คอนแท็คเลนส์อยู่ทุกวัน ควรจะแบ่งเวลาให้แว่นตาบ้าง เช่น ในวันหยุดหรือตอนเย็นหลังจากกลับถึงบ้านก็ได้ เพราะเราไม่ควรใส่อนแท็คเลนส์เกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน ไม่อย่างนั้นกระจกตาจะได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ ผลก็คือนอนกจากตาจะขุ่น เหมือนคนแก่แล้ว ยังเสี่ยงกับการเป็นโรคเยื่อตาขาวอักเสบด้วย

4. งดแอลกอฮอล์ก่อนนอน

ข้อนี้สาวๆ ขาดริ๊งค์ทั้งหลายต้องจำไว้ให้ขึ้นใจเลย เพราะการกรึ๊บเหล้า 1-2 ชั่วโมงก่อนเข้านอนจะทำให้คุณนอนไม่พอ เนื่องจาก 6 ชั่วโมงหลังจากกรึ๊บแล้ว ร่างกายเราจะผลิตสารเคมีลางอย่างซึ่งเป็นผลตกค้างจากแอลกอฮอล์ขึ้นมา ทำให้เรารู้สึกไม่สบายตัวและต้องตื่นอย่างเลี่ยงไม่ได้ คนนอนไม่พอหน้าตาเป็นยังไงให้ดูจากหน้าคุณก็จะรู้เอง ถ้าจำเป็นต้องดื่มจริงๆ สาวแซบควรจะดื่มน้ำตามมากๆ เพื่อให้น้ำช่วยชะล้างสารตกค้างนั้นออกไป

5. ปัสสาวะทุก 2-3 ชั่วโมง

ไม่ว่างานจะยุ่งแค่ไหน เราก็ไม่ควรกลั้นปัสสาวะ เพราะนั่นคือการกวักมือเรียกโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบให้มาโต๋เต๋ในกระเพาะปัสสาวะของเรา คนที่ดื่มน้ำมากพอจะปัสสาวะทุกๆ 2-3 ชั่วโมง ถ้าในวันหนึ่งๆ สาวแซบปัสสาวะน้อยครั้งกว่านี้ แสดงว่าคุณต้องจิบน้ำให้บ่อยขื้นได้แล้ว

6. ปัสสาวะบ่อยไม่ใช่เรื่องผิด

ถ้าสาวๆ กำลังเจอกับปัญหาการปัสสาวะบ่อยกว่า 6-8 ครั้งต่อวัน ไม่ต้องตกใจ อาจเป็นได้ว่าคุณดื่มน้ำมากเกินไป หรือไม่ก็นั่งทำงานอยู่ในห้องที่เปิดแอร์เกินขนาด ถ้าปัสสาวะไม่ออกหรือออกเป็นเลือดสิ ค่อยน่าตื่นเต้นหน่อย

7. ผมร่วงเพราะไดเอท

เป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะผมร่วงเวลาที่ผอมลง เพราะร่างกายคุณขาดสารอาหารที่เคยได้รับไป ถ้าสาวแซบไม่อยากหุ่นดีแต่หัวล้าน คุณควรจะลดน้ำหนักแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่หักโหม และควรจะเน้นวิธีผอมด้วยการออกกำลังกายมากกว่าจะผอมเพราะอดอาหาร

8. แบคทีเรียมาพร้อมรอบเดือน

เลือดเป็นอาหารโปรดของแบคทีเรีย จุดซ่อนเร้นของเราจึงติดเชื้อแบคทีเรียได้ง่ายเวลาที่มีประจำเดือน สาวๆ ทุกคนจึงควรทานโยเกิร์ตหรือนมเปรี้ยวเป็นประจำ เพื่อให้เชื้อจุลินทรีย์ชนิดดีในนมเปรี้ยวช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียให้ ยิ่งถ้ากินอาหารเสริมพวกแลคโตบาซิลลัสแคปซูลได้จะดีมากๆ เพราะอาหารเสริมพวกนี้จะมีจุลินทรีย์ชนิดดีมากเป็นพิเศษ

ที่มา : Spicy

เคล็ดลับง่ายๆ กระจายความสุขไปทั่วร่าง

ขึ้นชื่อว่าความสุขไม่ว่าใครๆ ก็อยากจะสัมผัสกันทั้งนั้นและวิธีที่จะนำมาซึ่งสิ่งนี้ก็มีหลายวิธีด้วยกัน วันนี้ก็จะทำที่จะสร้างความสุขที่ทำได้ง่ายๆ มาบอกต่อกันค่ะ

"เทคนิคเด็ดดวงต่อไปนี้จะทำให้ความสุขของคุณกลายเป็นที่สุดแห่งความสุขจนร่างกายของคุณสัมผัสได้"

happy

ซักผ้าปูที่นอนด้วยน้ำยาปรับผ้านุ่มหอมๆ รีดให้เนี๊ยบแล้วเอามาปูนอน เวลาได้เอนหลังในผ้าปูใหม่สะอาดเอี่ยม จะให้ความรู้สึกยอดเยี่ยมอย่างบอกไม่ถูกเลย

ตื่นเช้าขึ้นมาให้เปิดวิทยุฟังเพลงที่กำลังฮิตที่สุดในตอนนั้น จังหวะมันส์ๆ จะปลุกให้พลังงานของคุณแผ่ซ่านไปทั่วตัว พร้อมสำหรับวันใหม่แบบใสกิ๊งสุดๆ

นั่งเบื่อๆ ลองเข้าไปในเว็บไซต์ทำอาหารแล้วจดสูตรอร่อยๆ มาลองทำกิน อะไรจะทำให้เรารู้สึกดีเท่ากินหอเจี๊ยะเป็นไม่มีอีกแล้ว

อาบน้ำเย็นๆ แล้วถูตัวด้วยสบู่หอมๆ เป็นการผ่อนคลายความเครียดที่วิเศษอย่าบอกใครเชียว

หมอดูอาจจะทายไม่แม่น แต่ดีในแง่การบำบัดจิตใจ อย่างน้อยการดูหมอก็จะช่วยให้คุณรู้ว่า ทำไมชีวิตตอนนี้ถึงซกมกนรกแตกนัก (เพราะดวงตกไงล่ะ) แล้วจะดีขึ้นเมื่อไร หรือต้องไปสะเดาะห์เคราะห์แบบไหน ถึงจะสบายใจขึ้น

จบจากหมอดูอย่าลืมใช้บริการของหมอนวด การนวดแผนไทยจะช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย เลือดลมเดินดี แล้วจิตใจก็จะคึกคักกระชุ่มกระชวยไปด้วย

ที่มา : Spicy

วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ผักผลไม้ 7 อย่าง ที่คุณผู้หญิงไม่ควรพลาด

เพื่อสุขภาพพลานามัยที่ดีของคุณสาวๆ ขอแนะนำผักผลไม้ 7 ชนิด สำหรับคุณผู้หญิงที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า
มีสารที่เป็นประโยชน์แก่หญิงทุกวัย ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งงดงาม และยังช่วยชะลอความชราได้อีกด้วย ดังนี้

• ลูกพรุน (Prunes)

พรุน
ลูกพรุนเป็นแหล่งที่ดีของโปแตสเซียม เหล็กและไฟเบอร์ที่สำคัญพรุนช่วยทำให้ผิวพรรณมีเลือดฝาด ผู้หญิงเราเมื่อผ่านช่วงสดใสของชีวิต คือวัยยี่สิบห้า ร่างกายก็จะเริ่มเสื่อมโทรม ไขมันเริ่มเข้าสะสมตามที่ต่างๆ มากมาย ใบหน้าที่เคยอวบอิ่มด้วยเลือดฝาดก็เริ่มหมองคล้ำ ผิวพรรณจะเป็นสีชมพู-ระเรื่อหรือซีดโทรมเกิดได้หลายสาเหตุ เช่น ผิวมีความหนามากขึ้นตามวัยจนมองไม่เห็น เลือดฝาด หรือเลือดไม่มีให้ฝาดคือเป็นโรคโลหิตจางนั่นเอง พรุนเป็นแหล่งธาตุเหล็กที่ดี พรุนแห้งหนึ่งขีดมีธาตุเหล็ก 2.78 มิลลิกรัมและมีวิตามิน ซี ซึ่งช่วยในการดูดซึมธาตุต่างๆ เข้าสู่ร่างกาย ดังนั้นหากคุณผู้หญิงอยากมีร่างกายแข็งแรง สมบูรณ์ ริมฝีปากแดงสดเหมือนสตรอเบอรี่ แก้มแดงใสเหมือนลูกเชอรี่โดยไม่ต้องใช้เครื่องสำอางดูเป็นคนที่มีสุขภาพดีสมบูรณ์ด้วยเลือดฝาด ลองรับประทานลูกพรุนสดๆ หรือลูกพลัมดูสิค่ะไม่เลวเลยทีเดียว

• ถั่ว
ถั่ว

ผู้หญิงทุกคนอยากมีหุ่นสวยเพรียว ไม่มีไขมันส่วนเกินสะสม “ถั่วช่วยคุณได้ค่ะ” ถั่วเป็นอาหารที่อุดมไปด้วย
โปรตีน เหล็ก วิตามินบี นอกจากนี้นักวิทยาศาสตร์ยังค้นพบว่าเมื่อคุณรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์ ชนิดที่
ละลายน้ำได้ (ซึ่งถั่วมีอยู่แล้วมากมาย) ไฟเบอร์จะเคลือบผิวกระเพาะทำให้รู้สึกอิ่มเร็วและอิ่ม-นานความอยากอาหารจะลดลง ซึ่งแน่นอนว่ามีประโยชน์กับคุณสุภาพสตรีที่ต้องการลดความอ้วนเป็นอย่างมาก

• บรอคโคลี่ บล็อคโคลี่
เป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคุณสุภาพสตรีทั้งหลายเพราะบรอค-โคลี่เป็นแหล่งซีลีเนียมตามธรรมชาติซึ่งเจ้าตัวซีลีเนียมนี้แหละค่ะ ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ (ซีลี-เนียมจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหนังจึงทำให้ผิวดูอ่อนวัยนุ่มนิ่ม มีน้ำมีนวลเหมือนหนุ่มสาว) แถมยังช่วยลบริ้วรอยเหี่ยวย่นอีกด้วย

• กล้วยไข่
กล้วย

กล้วยทุกชนิดดีต่อสุขภาพแต่กล้วยไข่ดีเป็นพิเศษ ในเรื่องของสารต้านอนุมูลอิสระที่เรารู้จักกันดี คือ เบต้าแคโรทีนโดยธรรมชาติ เมื่อเราอายุพ้นยี่สิบสองไปแล้วความเจริญเติบโตของร่างกายจะเริ่มหยุดชะงัก ความเสื่อมในส่วนต่างๆของร่างกายก็จะเริ่มมาเยือนอย่างช้าๆ ขณะนั้นเองมีสองสิ่งที่สำคัญเกิดขี้นในร่างกายของเรา ซึ่งก็คือสิ่งแรก เซลล์ในร่างกายทุกเซลล์จะผลิตอนุมูลอิสระมากขึ้นสิ่งที่สองความสามารถในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายจะลดลงเรื่อยๆพร้อมกันนั้นความสามารถในการจำกัดอนุมูลอิสระ (Detoxification) ก็ลดลงอย่างน่าตกใจเช่นกันดังนั้น กลยุทธ์ที่คุณจะสู้กับความแก่ด้วยตนเองก็คือคุณต้องรับประทานอาหารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระให้มากซึ่งสารนี้เรารู้จักในชื่อที่ เรียกว่า แอนตี้ออกซิแดนท์ (Antioxidants) ซึ่งในกล้วยไข่ 1 ขีด มีสารเบต้าแคโรทีนถึง 492 มิลลิกรัม

• ฝรั่ง
ฝรั่ง

คุณผู้หญิงทั้งหลายทราบหรือไม่คะว่าฝรั่ง 1 ขีดมีวิตามินซีสูงถึง180 มิลลิกรัม วิตามินซีมีบทบาทในการสร้าง
คอลลาเจนที่ทำให้ผิวพรรณบนใบหน้าของคุณเต่งตึงไม่แก่ก่อนวัยวิตามินซี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเจ้าตัวสารต้านอนุมูลอิสระนี้เองที่ทำให้คอลลาเจนและอีลาสตินเสื่อมสภาพผิวหนังแห้งเหี่ยว เกิดริ้วรอยตีนกาวิตามินซีมีความสำคัญต่อการสร้าง และบำรุงเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน(ConnectiveTissue) เซลล์นับล้านๆตัวเกาะเกี่ยวกันเป็นร่างกายได้ด้วยเนื้อเยื่อที่เรียกว่า คอลลาเจนมันคือคอลลาเจนตัวเดียวกันกับคอลลาเจนที่ทำให้ผิวพรรณบนใบหน้าของคุณผู้หญิงทั้งหลายเต่งตึงนั่นเอง และเพราะฝรั่งอุดมไปด้วยวิตามินซีนั่นเอง คุณๆ ทั้งหลายที่อยากคงความเป็นหนุ่มเป็นสาวให้แก่ผิวสวยไว้นานๆน่าจะลองหันมารับประทานฝรั่งเป็นประจำนะคะ

• แอปเปิ้ล
แอปเปิ้

มีสารสำคัญ คือ เบต้าแคโรทีน วิตามินซีและเส้นใยไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำ ที่ชื่อ “เพคติน” แต่ที่น่าสนใจสำคัญ คุณผู้หญิงทั้งหลายคือ เจ้าตัว “เพคติน” นี้มีคุณสมบัติช่วยลดความอยากอาหาร ลดน้ำหนักและลด โคเลสเตอรอล หากคุณหิวจนตาลาย แต่ยังไม่ถึงเวลาอาหารแอปเปิ้ลสักลูกจะช่วยลดความหิวได้เพราะแอปเปิ้ลมีแป้งและน้ำตาลในรูปของน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวถึง 75 %ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมน้ำตาลพิเศษชนิดนี้ได้รวดเร็วและนำไปใช้ประโยชน์ได้ ในเวลาไม่เกิน 10 นาที ดังนั้นความอยากอาหารจึงลดลงทำให้คุณไม่รู้สึกหงุดหงิด หรืออ่อนเพลีย แอปเปิ้ล 2-3 ผลต่อวันช่วยลดปริมาณโคเลสเตอรอลในกระแสเลือดได้ เพราะแอปเปิ้ลมีเพคตินซึ่งเป็นไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้ ผลจากการวิจัยชี้ว่าเมื่อกรดในทางเดินอาหารย่อยสลายไขมันและแยกโคเลสเตอรอลออกมาเสร็จสิ้นแล้ว เพคตินจากแอปเปิ้ลจะไปคอยดักจับโคเลสเตอรอลเหล่านั้นและพาไปทิ้งก่อนที่จะถูกดูดกลับเข้าร่างกาย

• ส้ม
ส้ม

แหล่งวิตามิน เกลือแร่ และเส้นใยธรรม-ชาติการรับประทานส้มโดยไม่คายกากจะช่วยคุมน้ำหนักได้อีกวิธีหนึ่ง เพราะจะทำให้รู้สึกอิ่มท้องเร็วเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักได้อย่างดีทีเดียวค่ะนอกจากนี้ หากรู้สึกหิวก่อนเวลา แทนที่จะนึกถึงเค้กก้อนโต หรือโดนัทชิ้นใหญ่ให้ลองหยิบส้มสักลูกเข้าปากแทนจะได้ประโยชน์มากกว่าในราคาที่ถูกกว่าด้วยนะคะ

ผักและผลไม้ทั้ง 7 ชนิดที่กล่าวมาข้างต้นนั้นเป็นเพียงแนวทางเบื้องต้นสำหรับคุณๆผู้หญิงทุกท่านที่ต้องการรักษาสุขภาพ นอกจากผักผลไม้ทั้งเจ็ดนี้แล้วผักและผลไม้อื่นๆ ก็มีคุณประโยชน์ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันสถาบันโภชนาการแห่งชาติอเมริกาจึงได้แนะนำขนาด-ในการรับประทานผักผลไม้ในแต่ละวันว่า ควรจะรับประทานรวมกันให้ได้วันละครึ่งกิโล หรือ 5 ขีดจะช่วยให้คุณๆทั้งหลายมีสุขภาพแข็งแรง แจ่มใส ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บมารบกวนค่ะ

ที่มา : หนังสือเภสัชโภชนา โดย ภก. สรจักร ศิริบริรักษ์

วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ยากับน้ำผลไม้อันตรายกว่าที่คิด

ดื่มน้ำ

น้ำเปล่าดีที่สุดเมื่อต้องรับประทานยา เวลาที่ไม่สบาย เราก็ต้องกินยาเพื่อจะได้หายป่วยไว ๆ แต่บางทีถ้าหากว่าเป็นโรคบางโรคแล้วกินยา แล้วเผลอตามด้วยการดื่มน้ำผลไม้เข้าไป นั่นอาจจะก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่อันตราย

คณะวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ซานฟรานซิสโกได้เปิดเผยผลการวิจัยซึ่งบ่งว่า น้ำผลไม้ส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานของร่างกาย ที่จะทำให้ประสิทธิภาพในการรักษาของยาหมดไป เพราะก่อนที่ยานั้นจะซึมเข้าสู่กระแสเลือด น้ำผลไม้จะต่อต้านการดูดซึมของยาที่ใช้ในการรักษาโรคมะเร็งความดันโลหิตสูง หัวใจล้มเหลว และโรคภูมิแพ้ต่าง ๆ รวมไปถึงยาที่ใช้กับผู้ป่วยที่ทำการปลูกถ่ายอวัยวะใหม่

ผลการวิจัยที่ได้รับการเปิดเผย ก่อนหน้านี้ บ่งบอกถึงอันตรายของน้ำผลไม้ ในแง่ที่ส่งผลต่อการรับประทานยาเช่นกัน เพราะฤทธิ์ในการทำลายเอนไซม์ในร่างกายที่ทำหน้าที่สกัดกั้นไม่ให้ยาเข้าสู่กระแสเลือดมากเกินไป เมื่อเอนไซม์ชนิดนี้ลดลงทำให้ตัวยาบางชนิดรวมถึงยาที่ใช้ในการรักษาโรคความดันโลหิตและแอนติฮิสตามีน (Antihistamines) มีฤทธิ์ในการรักษารุนแรงขึ้น เพราะในบางกรณีที่ร่างกายได้รับตัวยามากเกินขนาด จะเป็นผลเสียต่อการรักษาและร่างกายผู้ป่วย

ที่มา : http://www.mcot.net/

7 กลยุทธ์หยุดพุงป่อง ตอนที่ 2

ตอนที่แล้วเรานำเสนอวิธีที่ 1-3 ของกลยุทธ์หยุดพุงป่องไป คราวนี้มาติดตามวิธีที่เหลือกันเลยดีกว่าค่ะ เท่านี้ก็จะได้มีพุงสวย แบนราบกันแล้ว

4. นวดกระชับหน้าท้อง

บางครั้งถึงเราจะออกกำลังกายจนพุงแบนแล้ว แต่หน้าท้องก็ยังดูใหญ่เพราะมีลมกักอยู่ในช่องท้อง สาวแซบจึงควรจะนวดไล่ลมหน้าท้องออกไป นอกจากก็เพื่อให้ดูสวยงามแล้ว ยังเพื่อให้ระบบย่อยทำงานได้ดีขึ้นด้วย โดยการวางมือลงบนหน้าท้องแล้วถูวนตามเข็มนาฬิกา ความร้อนจากมือของเราจะทำให้เลือดลมเดินสะดวกและไล่ลมส่วนเกินออกมา ถ้าอยากเห็นผลเร็วขึ้นจะใช้ครีมประเภทกระชับกล้ามเนื้อร่วมไปพร้อมกับการนวดก็ได้

5. จำกัดอาหารลดน้ำหนัก

สาวๆ ที่กินอาหารลดน้ำหนักมักจะชะล่าใจว่ากินอาหารที่มีแคลอรี่น้อยอยู่ ก็เลยกินแบบไม่บันยะบันยัง จนกลายเป็นได้รับแคลอรี่มากกว่าการกินอาหารตามปกติเสียอีก ที่จริงถ้าเราเน้นทานอาหารที่มีเส้นใยมากๆ ก็จะช่วยให้อิ่มทนและผอมลงโดยไม่ต้องเสียเงินไปซื้ออาหารลดน้ำหนักมาทานเลย และยังจะได้รู้ปริมาณที่แท้จริงของอาหารด้วยว่ากินไปมากขนาดไหนแล้ว

6. ขจัดสารพิษ

พวกสารพิษต่างๆ นี่ล่ะที่ทำให้ตัวบวม ถึงสาวแซบจะไม่ได้ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ แต่เราก็ยังได้รับสารพิศจากคาแฟอีนในชากาแฟ และสารพิษจากผัก เนื้อสัตว์ รวมทั้งมลพิษในอากาศอีก สารพิษพวกนี้จะทำให้ระบบย่อยมีปัญหา เกิดอาการบวมน้ำและป็นตัวต้นเหตุของเซลลูไลท์ ถ้าเป็นไปได้เราจึงควรจะเข้าโปรแกรมขจัดสารพิษเดือนละครั้ง วิธีก็ไม่ยากอะไรเลย แค่เลือกวันหยุดที่ไม่มีธุระต้องออกจากบ้านสักวันแล้วกินแต่ผลไม้ชนิดเดียวตลอดทั้งวันกับน้ำเปล่า พอเช้าวันรุ่งขึ้นก็ดื่มน้ำเปล่าบีบมะนาวเพื่อกระตุ้นให้ระบบขับถ่ายทำงาน แค่นี้สารพิษในร่างกายก็จะถูกขจัดออกมาช่วยให้ระบบต่างๆ ทำงานดีขึ้น และพุงกลมๆ ก็จะแบนลงทันตาเห็นด้วย

7. ฝึกหายใจใหม่

วิธีหายใจที่ถูกต้องคือการสูดลมหายใจเข้าจนพุงป่อง จากนั้นก็ปล่อยลมหายใจออกจนพุงยุบ ถ้าทำจนเป็นนิสัย ร่างกายจะได้รับออกซิเจนอย่างเต็มที่และจำนำออกซิเจนไปใช้ในการเผาผลาญพลังงาน ช่วยสลายไขมันในตัวได้ดียิ่งขึ้น แถมท่าสูดลมหายใจเข้าออกที่ถูกต้องนี้ยังเป็นการออกกำลังกายกล้ามเนื้อหน้าท้อง ทำให้หน้าท้องของเรากระชับและแบนราบเร็วขึ้นด้วย

ที่มา : Spicy

7 กลยุทธ์หยุดพุงป่อง ตอนที่1

การมีหน้าท้องแบนเรียบ รูปร่างดีสมส่วนเป็นสุดยอดความปรารถนาของสาวๆ อย่างพวกเราเลยใช่ไหมล่ะคะแต่ด้วยสภาวะเร่งรีบอย่างทุกวันนี้ จะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยกับพวกอาหารขยะต่างๆ ต้นเหตุของความอ้วนและพุงย้อยๆ วันนี้เลยนำบทความดีๆ เกี่ยวกับวิธีการพิชิตพุงมานำเสนอกันค่ะ

เวลาหน้าท้องเฟิร์มเรียบไม่มีพุง จะใส่ชุดไหนก็สวยทั้งนั้นแถมวิธีพิชิตพุงแบนก็ไม่ยากเลย แค่ใช้เทคนิคเด็ดๆ ต่อไปนี้เท่านั้นเอง

  1. เพิ่มแบคทีเรียในลำไส้

ปกติในลำไส้ของเราจะมีแบคทีเรียชนิดดีอาศัยอยู่เพื่อช่วยให้ระบบย่อยทำงานเป็นปกติ แต่แบคทีเรียพวกนี้จะถูกกำจัดไปถ้าเราเกิดเจ็บป่วยหรือกินยาหรืออาหารบางชนิด เมื่อไม่มีแบคทีเรียช่วย อาหารก็ไม่ย่อย เป็นที่มาของพุงป่องๆ ของเรา สาวแซบจึงต้องเรียกแบคทีเรียฮีโร่เหล่านี้กลับมาด้วยการดื่มนมเปรี้ยวที่มีแลคโตบาซิลลัสหรือกินโยเกิร์ตเพื่อให้ระบบย่อยทำงานดีขึ้น

2. บริหารแบบคาร์ดิโอ

การออกกำลังแบบคาร์ดิโอก็คือ การบริหารกล้ามเนื้อหัวใจให้แข็งแรงและเผาผลาญไขมันทั่วทั้งตัว เช่น การเต้นแอโรบิค ว่ายน้ำ วิ่งจ๊อกกิ้ง วิ่งบนสายพาน ประมาณอาทิตย์ละ 3 ครั้ง เพราะถ้าไม่มีการเผาผลาญไขมันทั่วร่างแล้ว ถึงเราจะพยายามซิทอัพเน้นหน้าท้องมากแค่ไหน พุงป่องๆ ก็ไม่หายไปเนื่องจากไขมันที่คลุมอยู่ไม่สลายตัวไปนั่นเอง

3. สังเกตุอาหาร

บางทีพุงที่เราเห็นอาจจะไม่ได้มาจากไขมันแต่เกิดจากการแพ้อาหารบางชนิด ให้สาวแซบลองสังเกตุดูว่าคุณมักจะพุงป่องขึ้นหลังจากกินอาหารอะไรเข้าไป จากนั้นก็พยายามงดอาหารประเภทนั้นซะ ส่วนมากอาหารที่ทำให้พุงป่องมักจะเป็นพวกแป้งหรือนม รวมถึงยาลางตัวที่ทำให้เรามีอาการบวมน้ำด้วย

ที่มา : Spicy

สมองจะหด...ถ้าอดเนื้อสัตว์

เครียด

คนที่คิดจะลดความอ้วนด้วยการตัดเนื้อสัตว์ออกไปจากชีวิตควรจะคิดดูใหม่ได้แล้ว เพราะมีผลการวิจัยบอกว่าสมองของคนที่ไม่กินเนื้อสัตว์จะหดเล็กลงกว่าของคนที่กินถึง 6 เท่าภายในเวลาประมาณ 5 ปี นอกจากนี้คนที่ไม่กินจะขาดวิตามินสำคัญหลายชนิดที่มีอยู่เฉพาะในเนื้อสัตว์ด้วย ทำให้เป็นโรคโลหิตจางและระบบประสาทอักเสบได้ง่าย ฉะนั้นใครที่กำลังคิดจะเป็นสาวมังสวิรัติ ยังไงก็ควรจะกินนม ตับ และปลาเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน จะได้ไม่ต้องกลายเป็นสาวขี้โรคแถมเอ๋ออีกต่างหาก...ส่วนสาวนักดริ๊งค์นี่ยิ่งร้ายใหญ่ เพราะผลการวิจัยเขารายงานมาว่าการดื่มเหล้านี่แหละคือตัวทำลายสมองที่เร็วที่สุด สมองของคุณจะหดลง 1.6 เท่า ไม่ว่าจะกินอาหารครบกี่หมู่ก็ตาม ยิ่งคนที่ดื่มเบียร์สมองจะหดเล็กมากกว่าคนที่ดื่มไว่น์ เพราะเบียร์มีระดับแอลกอฮอล์สูงกว่ากันเยอะ

ที่มา : Spicy

วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เคล็ดลับการรับประทานอาหารเพิ่มอกอึ๋ม

หน้าอก

วันนี้ได้เจอบทความดีๆ จากการท่องเน็ตมาค่ะ อ่านๆ ดูแล้วก็น่าสนใจดีทีเดียวสำหรับผู้ที่อัตคัตหน้าอกหน้าใจแถมยังได้ความรู้ใหม่ๆ เพิ่มด้วยก็นำมาแบ่งปันกัน

เรื่องนี้ได้มาจากการบรรยายของ เภสัชกรหญิงนันทวดี พิทยาพิบูลย์พงษ์ ผู้จัดการพัฒนาธุรกิจความงามและสุขภาพ บริษัท Venus aesthetic ศูนย์ให้คำปรึกษาปัญหาหน้าอก และให้บริการเกี่ยวกับการเพิ่มขนาดหน้าอก ซึ่งทำให้ทราบว่า การที่หน้าอกหย่อนไม่ได้รูปนั้น เกิดจากอิลาสตินคอลลาเจน (เนื้อเยื่อตรงฐานอกซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้หน้าอกมีความยืดหยุ่นและคงตัว) ไม่แข็งแรง และสาเหตุที่ไม่แข็งแรงนั้น ก็เพราะการรับประทานอาหารแบบทุโภชนาการ รวมถึงการอดอาหารลดน้ำหนักที่ไม่ถูกต้อง

ส่วนประกอบของร่างกายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าคือโปรตีนและไขมัน แต่อาหารที่ผู้หญิงนิยมรับประทานกันคือ ผักและผลไม้ ซึ่งเป็นส่วนของพลังงานทั้งสิ้น แต่ในความจริงแล้วร่างกายของเราต้องมีการสร้างซ่อมตลอดเวลา และวัตถุดิบในการสร้างซ่อมก็มาจากอาหารที่เราบริโภคเข้าไปสู่ร่างกาย ดังนั้น หากเราไม่รับประทานอาหารที่ร่างกายสามารถนำไปสร้างซ่อมได้ ร่างกายก็จะย่อยเนื้อเยื่อออกมาก่อนแล้วนำกลับไปใหม่ ทำให้ไม่สามารถซ่อมแซมส่วนที่ต้องซ่อมแซมได้ รวมทั้งการย่อยแบบนี้จะทำให้เนื้อเยื่อต่างๆหลวม รวมไปถึงเนื้อเยื่อตรงฐานหน้าอกด้วย และนี่คือคำตอบว่าทำไมหน้าอกของเราจึงหย่อนและไม่กระชับ สาเหตุก็เพราะเรารับประทานอาหารไม่ถูกสัดส่วนนี่เอง
คำแนะนำคือ หากต้องการให้หน้าอกของเรากระชับและตั้งขึ้น จะต้องเปลี่ยนวิธีการบริโภคอาหารเสียใหม่ คือรับประทานให้ครบถ้วน โดยเน้นโปรตีนให้เพียงพอ เพราะการรับประทานโปรตีนอย่างเพียงพอ จะทำให้ร่างกายมีวัตถุดิบในการสร้างซ่อมตัวเอง
สำหรับคนที่กลัวว่ารับประทานอาหารครบถ้วนแล้วจะอ้วน ก็ขออธิบายต่อว่า หมวดที่ทำให้อ้วนนั้นได้แก่ แป้งและน้ำตาล ทั้งสองอย่างนี้ใช้เวลาในการย่อยไม่เกิน 40 นาที เมื่อย่อยเสร็จแล้ว แป้งและน้ำตาล จะอยู่ในรูปกลูโคส ซึ่งเป็นพลังงานหลัก แต่ร่างกายก็ยังไม่สามารถนำไปใช้ได้ ต้องมีตัวพานั่นก็คืออินซูลิน เพราะอินซูลินจะพากลูโคสเข้าสู่เซลล์ของกล้ามเนื้อและเปลี่ยนกลูโคสให้เป็นพลังงาน ถ้าใช้ไม่หมดอินซูลินจะนำกลูโคสที่เหลือไปเปลี่ยนเป็นพลังงานไขมันต่ำ สะสมไว้ในชั้นของไขมัน เพราะฉะนั้นการรับประทานอาหารที่มีแป้ง ของหวาน ขนม จะเป็นการรับประทานที่สะสมไขมันอยู่ตลอดเวลา และไม่เคยนำส่วนที่สะสมนี้ไปใช้ได้เลย โรคอ้วนจึงเกิดขึ้นกับเรา
วิธีที่จะนำไขมันสะสมออกมาใช้นั้น จะต้องมีโปรตีนเข้าไปช่วย เพราะหากโปรตีนไปปนอยู่กับแป้งและน้ำตาลจะทำให้การย่อยช้าลง เกิดการทยอยเข้าสู่กระแสเลือด อินซูลินจะถูกเรียกมาใช้อย่างช้าๆ ใช้แล้วก็หมดไป โอกาสที่จะนำกลูโคสไปสะสมในชั้นไขมันจะลดลง อีกทั้งโปรตีนจะเรียกฮอร์โมนที่ชื่อกลูคากอนออกมา กลูคากอนจะสามารถนำไขมันเก่ามาใช้เป็นพลังงานได้ด้วย แต่โปรตีนควรรับประทานคู่กับผักด้วย เพราะผักจะช่วยซับเอาไขมันส่วนเกินออกไป อีกทั้งไขมันก็เป็นสิ่งที่เราไม่ได้ต้องการ มากเกินไปด้วย
วิธีรับประทานโปรตีนที่ถูกต้องนั้น ให้ใช้ฝ่ามือของตัวเองชี้วัด กล่าวคือ ในตอนเช้า ควรรับประทานโปรตีน ประมาณ ครึ่งฝ่ามือหรือ ไข่ 1 ลูก ตอนกลางวัน รับประทานโปรตีน 3/4 ของฝ่ามือ และในตอนเย็น รับประทานโปรตีนให้เท่ากับ 1 ฝ่ามือ เหตุที่ต้องรับประทานโปรตีนให้มากในช่วงเย็นนั้น เพราะ 70% ของร่างกายจะถูกซ่อมแซมขณะที่เรานอนหลับ ส่วนคนที่นอนน้อย อย่างเช่น นอนตอนตี 1 แต่รับประทานมื้อเย็นไปเมื่อเวลา 18.00 น. นั้น ปกติร่างกายของเราควรมีการเติมอาหารทุกๆ 4 ชั่วโมง ดังนั้น หากเกิดกรณีนี้ในช่วง สี่ทุ่ม ร่างกายของเราจะย่อยอาหารเรียบร้อยแล้ว ช่วงเวลานี้จึงควรทานอะไรเพิ่มเติมเข้าไปและขอแนะนำว่าให้เป็นเรื่องของโปรตีนเท่านั้น เช่น นมหรือน้ำเต้าหู้ เพราะจะได้นำไปเก็บเป็นวัตถุดิบในการสร้างซ่อมได้
การรับประทานให้เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย นอกจากจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง หน้าอกกระชับได้รูปมากขึ้นแล้ว หากต้องการทำให้หน้าอกใหญ่ขึ้นโดยการใช้ทรีตเม้นต์และนวัตกรรมจากสถาบันที่เชื่อถือได้ คุณก็จะประสบผลสำเร็จได้ไม่ยาก แต่ถ้าคิดว่าเพียงแค่ต้องการให้หน้าอกคงความกระชับได้รูป การรับประทานอาหารและออกกำลังกาย บริหารหน้าอก ใส่ชุดชั้นในอย่างถูกต้องก็คงจะเพียงพอแล้ว ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะพอใจแค่ไหน แต่ถึงอย่างไร หากคุณเลือกในสิ่งที่มีคุณค่าให้กับตัวของคุณได้เองตั้งแต่วันนี้ คุณก็จะสวย สดใส มีชัยไปกว่าครึ่งแล้วค่ะ

เครดิต : http://www.garampree.com/

รวมสูตรสวยด้วยผลไม้ไทย

วันนี้จะมารวมสูตรผลไม้ของไทยที่หาได้ง่ายและสามารถใช้บำรุงผิวหน้าให้สวยใสได้โดยไม่ต้องพึ่งยาของคุณหมอให้เสียเงินมาฝากกันหลายสูตรเลยทีเดียวค่ะ

banana

กล้วย ผลไม้ที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี แถมยังมีให้หากินได้ตลอดทั้งปี ใครๆ ก็รู้ว่ากล้วยนั้นอุดมไปด้วยวิตามินเอและซี ที่จะไปช่วยชดเชยน้ำหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติที่เราสูญเสียไปทุกๆ วัน กล้วยจึงช่วยให้เรามีผิวพรรณดีขึ้นได้

วิธีการก็คือ

  • นำกล้วยหอมประมาณครึ่งลูกมาบดให้ละเอียด แล้วผสมกับนมสดหรือน้ำผึ้งประมาณ 1 ช้อนชา
  • พอกหน้าทิ้งไว้สัก 20 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น
  • ทำอย่างนี้ประมาณสัปดาห์ละครั้ง ผิวหน้าของคุณจะสดใส กระชับ เต่งตึง

  • ++ หากใครเลือกใช้สูตรกล้วยผสมน้ำผึ้ง นอกจากจะนำมาใช้พอกหน้าแล้ว ยังทำเผื่อสำหรับหมักผมได้ด้วย
    โดยนำไปหมักผมไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออก เพียงเท่านี้คุณก็จะได้เส้นผมที่นุ่มสลวย มีชีวิตชีวา พร้อมใบหน้าอ่อนเยาว์กว่าวัย

ฝรั่ง

ฝรั่งสด
นี่ก็เป็นผลไม้ที่เรารับประทานกันอยู่ทุกวัน ใครเลยจะรู้ว่าฝรั่งสามารถช่วยกระตุ้นและทำความสะอาดผิวหน้าได้ดีเยี่ยม นอกจากจะได้รสชาติที่อร่อยแล้ว ยังได้วิตามินซีไปช่วยดูแลร่างกายอีกด้วย
วิธีง่ายๆ คือ

  • นำเนื้อฝรั่ง 1 ลูกมาปั่น แล้วเอาเฉพาะส่วนที่เป็นเนื้อมาพอกหน้าทิ้งไว้ 15-20 นาทีแล้วล้างออก
  • ก็จะช่วยให้ใบหน้าที่เคยหมองคล้ำกลับมาผ่อนใสได้
  • ส่วนน้ำฝรั่งที่เหลือก็อย่าเอาไปทิ้งล่ะ เติมเกลือนิดหน่อย ใครที่ชอบรสหวานอาจใช้น้ำเชื่อมเล็กน้อย มาผสมกันเข้าแล้วดื่ม

มะม่วง

มะม่วง ข้อแม้อันดับแรกก็คือ ต้องเป็นมะม่วงสุกเท่านั้นจึงนำมาใช้ได้

  • วิธีการคือ
    • นำมะม่วงสุกมาฝานเป็นชิ้นบางๆ แล้วใช้ช้อนยีให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน
    • จากนั้นก็นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ 15 นาที ระหว่างนี้ห้ามขยับใบหน้า ห้ามยิ้ม ห้ามพูดโดยเด็ดขาด
    • แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
    • สูตรนี้จะทำให้ผิวหน้าของคุณเกลี้ยงเกลา สะอาด ไร้รอยเหี่ยวย่น

มะละกอ

มะละกอ สำหรับคนที่มืออยู่ไม่สุข ชอบบีบหรือแกะเม็ดสิวจนทำให้เกิดจุดด่างดำบนใบหน้า วิธีนี้จะช่วยป้องกันการอักเสบ ช่วยกระตุ้นและละลายสิ่งสกปรกออกจากผิวหน้า ทำให้ใบหน้าสดใส และจุดด่างดำก็จะค่อยจางหายไป

    • ให้นำมะละกอสุกมาบดให้ละเอียด
    • แล้วพอกหน้าทิ้งไว้ 15-20 นาทีค่อยล้างออก

watermelon

แตงโม ความชุ่มชื้นของน้ำแตงโมจะช่วยปรับสภาพผิวหน้า หลังการตากแดดให้กลับมามีสภาพดีดังเดิมได้ แค่นี้ผิวพรรณของเราก็จะกลับมาสดชื่นและนุ่มนวลดังเดิม
วิธีการก็ง่ายมาก

    • โดยการนำน้ำแตงโมงครึ่งถ้วยมาทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้สัก 20-30 นาที
    • แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นและตามด้วยน้ำเย็นอีกรอบ
    • หรือจะนำเนื้อแตงโมมาฝานบางๆ ไปแช่เย็น แล้วเอามาวางให้ทั่วบนใบหน้าและลำคอ

น้ำส้ม

น้ำส้ม นอกจากจะอร่อยแล้ว น้ำที่นางเอกนิยมดื่มชนิดนี้ ยังเป็นอาหารสำหรับผิวอย่างดีด้วย เนื่องจากน้ำส้มมีวิตามินซีสูง จึงช่วยให้ผิวชุ่มชื่น ไม่มัน ช่วยปรับสมดุล กระชับผิว ปราศจากผดผื่น ไม่ทำให้เกิดสิว และฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ดีด้วย
การดูแลในหน้าด้วยน้ำส้ม ทำได้โดย

    • นำน้ำส้มประมาณ 1/2 ถ้วยมาผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
    • แล้วทาหน้าทิ้งไว้ 20 นาทีก่อนล้างออก
    • ทำเป็นประจำสัปดาห์ละครั้ง หรือ 2 ครั้ง จะช่วยให้ใบหน้าเรียบเนียนได้

สตอเบอร์รี่

สตรอเบอร์รี่ เมื่อคนอายุมากขึ้น ใบหน้าก็เริ่มมีริ้วรอย และไม่สดใสเหมือนตอนเป็นวัยรุ่น ปัญหานี้สตรอว์เบอร์รี่ช่วยได้
วิธีทำ

  • โดยการนำสตรอว์เบอร์รี่ 8-10 ผลมาปั่น ไม่ต้องให้ละเอียดมากนัก
  • แล้วพอกหน้าทิ้งไว้ 25 นาที ห้ามขยับใบหน้าระหว่างการพอกหน้าด้วย
  • แล้วล้างออก ทำทุกๆ 3 วันผลที่ได้รับรองว่าจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง

++ แถมกันทิ้งท้ายอีกหน่อย ด้วยสูตรบำรุงเส้นผมจากสตรอว์เบอร์รี่

      • ให้นำสตรอว์เบอร์รี่ 5 ผล ไข่ไก่ 2 ฟอง น้ำมันมะกอก 1 ช้อนชา มาปั่นรวมกัน
      • แล้วนำมานวดหลังการสระผม ทิ้ง ไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออก
      • จะช่วยให้เส้นผมเงางามและมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของสตรอว์เบอร์รี่โชยแตะจมูกทั้งวัน

เครดิต : เจ้าหญิงแห่งความรัก

http://writer.dek-d.com/stampberryjolove/story/view.php?id=543338

ยาพิษที่แฝงมาในก๋วยเตี๋ยว

ก๋วยเตี๋ยว

เห็นแซบหลายอย่างนั้น ใครจะไปเชื่อว่าหน้าตาหอเจี๊ยะอย่างก๋วยเตี๋ยวจะมีของแถมแฝงยาพิษเพียบขนาดนี้

ยาปราบศัตรูพืช ต้นไม้ใบหญ้าสมัยนี้ใส่ยากันทั้งนั้น ถ้าทางร้านเขาล้างออกไม่หมด คนกินอย่างเราก็จะต้องพลอยอร่อยกับสารเคมีพวกนี้ไปด้วยและถ้ากินเข้าไปในปริมาณมากๆ จะทำให้อ่อนเพลีย คลื่นไส้ ปวดท้อง จนถึงขั้นหมดสติได้

น้ำส้มสายชูปลอม ของปลอมพวกนี้ใช้กรดเกลือ กรดกำมะถัน ซึ่งกินไม่ได้มาผสมกับน้ำ สาวๆ ที่ชอบกินรสจัดๆ จึงต้องระวังให้ดี เพราะถ้าร่างกายได้รับน้ำส้มสายชูปลอมในปริมาณมาก มันจะเข้สไปกัดกระเพาะอาหารและลำไส้จนเป็นแผล หรืออาจร้ายแรงจนกระเพาะทะลุเลยก็มี

ถั่วลิสงและพริกป่น ถึงถั่วกับพริกจะไม่มีคำว่าของปลอม แต่ถ้าทางร้านเก็บไว้ในที่อับชื้นจนขึ้นรา คนกินตาดำๆ อย่างเราก็ต้องได้รับสารอัลฟาท็อกซินเข้าไป ซึ่งผลก็คือจะทำให้ตับถูกทำลาย หัวใจและสมองบวม ร้ายแรงที่สุดก็เป็นมะเร็งที่ตับ อะจึ๋ย!!

สารตะกั่ว ถ้าทางร้านเลือกใช้หม้อถูกๆ ประเภทที่บัดกรีโดยใช้วัสดุที่มีสารตะกั่วปนอยู่ พอถูกน้ำร้อนสารตะกั่วก็จะละลายออกมาปนกับน้ำซุปกลายเป็นน้ำก๋วยเตี๋ยวสูตรเด็ดที่ทำลายระบบเลือด ระบบสมอง และทำลายประสาท นานๆ เข้าก็จะทำให้เป็นอัมพาตได้

สารบอแรกซ์ สารตัวนี้ใส่มาเพื่อให้ลูกชิ้นเด้งหนึบๆ เป็นความอร่อยที่มาพร้อมกับอาการปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง ถ้าสะสมในร่างกายมากๆ ก็อาจทำให้เสียชีวิตได้

สารฟอกขาว ถั่วงอกที่เราเห็นขาวอวบน่ากินนั้น ขาวเด้งได้ด้วยสารฟอกขาวนี่เอง พิษของมันคือทำให้ปวดท้อง ท้องร่วง และนานๆ เข้าก็จะเป็นโรคหอบหืด

สารเร่งเนื้อแดง บางฟาร์มที่ไม่ได้มาตรฐานจะเลี้ยงหนูด้วยสารตัวนี้ เพื่อให้เนื้อแดงสดใสน่ากิน ถ้าเอาไปสะสมในร่างกายมากๆ คนกินผู้น่าสงสารอย่างเราก็จะมีอาการปวดหัว อาเจียน กล้ามเนื้อกระตุก ที่สำคัญคือทำให้มีอาการทางจิตต้องรักษากันยาวเลยเชียว

เชื้อจุลินทรีย์ ถ้าทางร้านลวกก๋วยเตี๋ยวไม่นานพอ หรือลวกเนื้อแค่พอดิบๆ สุกๆ เชื้อจุลินทรีย์ในเนื้อก็อาจยังไม่ตาย และเข้าสู่ร่างกายของเรา ทำให้หายใจขัดเวียนหัว ปวดท้อง อาเจียน ท้องร่วง ช็อกหมดสติ ไปจนถึงเสียชีวิตได้

น้ำมันเก่า เครื่องประกอบก๋วยเตี๋ยวที่ทอดมาจากน้ำมันที่ทอดซ้ำหลายๆ ครั้ง จะมีสารอนุมูลอิสระปนเปื้อนอยู่ สารพวกนี้เป็นตัวก่อมะเร็งชั้นดี กินมากๆ มะเร็งจะจำทางได้และตามมาทักทายคุณถึงบ้าน

สารโพลาร์ เส้นก๋วยเตี๋ยวบางร้านเป็นมันเงาน่ากินก็ด้วยสารตัวนี้ ทั้งๆ ที่กินเข้าไปแล้วจะเป็นต้นเหตุของมะเร็งตับ มะเร็งเม็ดเลือดขาว ความดันโลหิต ฯลฯ แต่พวกพ่อค้าก็ยังใส่กันจัง ว้า...

ถึงพิษจากก๋วยเตี๋ยวจะมากขนาดนี้ แต่สาวๆ ก็ไม่ต้องงดของโปรดกันหรอกค่ะ เพียงแต่เราต้องเลือกร้านที่ไว้ใจได้ว่าใช้เครื่องปรุงและส่วนประกอบที่ได้มาตรฐาน อันตรายก็จะน้อยลงไปเอง

ที่มา : Spicy

 

Followers

Copyright © 2009 Blogger Template Designed by Bie Blogger Template Vector by DaPino